วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

                                                            



หมวด 7ครูคณาจารย์ และ บุคลากรทางการศึกษา

              


   



 หมวด 7 วางหลักการและมาตรการที่จะส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพ ครู คณาจารย์ และ
บุคลากรทางการศึกษา และพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ตามหลักการ วรรค 4 มาตรา 9 หลักการและมาตรการดังกล่าว มี 3 ประการ ดังนี้


          1. จัดให้มีระบบการพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง และกองทุนพัฒนา
          2. ส่งเสริมองค์กรวิชาชีพครูให้เข้มแข็งและมีบทบาทหน้าที่กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ
และมีอำนาจออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
          3. จัดระบบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูโดยเน้นการกระจายอำนาจไปสู่
เขตพื้นที่การศึกษา และมีระบบเงินเดือน ค่าตอบแทนและสวัสดิการเหมาะสมกับวิชาชีพ
และมีกองทุนส่งเสริมครูในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์
          มาตราในหมวดนี้มีทั้งหมด 6 มาตรา
          มาตรา 52 ให้กระทรวงส่วเสริมให้มีระบบ  กระบวนการผลิต  การพัฒนา
ครู  คณาจารย์  และบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสม
กับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง  โดยการกำกับและประสานให้สถาบันที่ทำหน้าที่
ผลิตและพัฒนาครู  คณาจารย์  รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาให้มีความพร้อม
และมีความเข้มแข็งในการเตรียมบุคลากรใหม่และการพัฒนาบุคลากร
ประจำการอย่างต่อเนื่อง
          รัฐพึงจัดสรรงบประมาณและจัดตั้งกองทุนพัฒนาครู  คณาจารย์  และบุคลากรทาง
การศึกษาอย่างเพียงพอ
          มาตรา 52 ต้องการจะชี้ให้เห็นว่าจะต้องมีระบบการผลิตครู  และการพัฒนาครูอย่าง
ต่อเนื่อง  โดยเฉพาะระบบการพัฒนาครูประจำการตลอดชีวิต  และจะต้องมีการจัดสรร
งบประมาณเพื่อการพัฒนา  และจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัมนาครู  คณาจารย์  และบุคลากร
ทางการศึกษา
             มาตรา 53 ให้มีองค์กรวิชาชีพครู  ผู้บริหารสถานศึกษา  และผู้บริหาร
การศึกษามีฐานะเป็นองค์กรอิสระภายใต้การบริหารของสภาวิชาชีพในกำกับ
ของกระทรวง  มีอำนาจหน้าที่กำหนด มาตรฐานวิชาชีพ  ออกและเพิกถอน
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ  กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณ
ของวิชาชีพ  รวมทั้งการพัฒนาวิชาชีพครู  ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหาร
การศึกษา
          ให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา  และบุคลากรทางการศึกษาอื่นทั้งของ
รัฐและเอกชนต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามที่กฎหมายกำหนด
          การจัดให้มีองค์กรวิชาชีพครู  ผู้บริหารสถานศึกษา  ผู้บริหารการศึกษาและบุคลากร
ทางการศึกษาอื่น  คุณสมบัติ  หลักเกณฑ์  และวิธีการในการออกและเพิกถอนใบอนุญาต
ประกอบวิชาชีพ  ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
          ความในวรรคสองไม่ใช้บังคับแก่บุคลากรทางการศึกษาที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย
สถานศึกษาตามมาตรา 18(3)  ผู้บริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษาและวิทยากร
พิเศษทางการศึกษา
          ความในมาตรานี้ไม่ใช้บังคับแก่คณาจารย์  ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา
ในระดับอุดมศึกษาระดับปริญญา
          วรรคหนึ่งของมาตรานี้ คือ ให้มีองค์กรวิชาชีพครูผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหาร
การศึกษา (ซึ่งอาจจะเป็นองค์กรเดียว)  และมีฐานะเป็นองค์กรอิสระภายใต้การบริหารของ
สภาวิชาชีพ  ซึ่งหมายความว่าไม่อยู่ในบังคับบัญชาของกระทรวงฯ  แต่ให้กระทรวงฯ
ทำหน้าที่ "กำกับ"
          คำว่า "กำกับ" ในภาษากฎหมายบริหาร หมายความถึงหน่วยกำกับไม่มีอำนาจเข้าไป
บริหารบังคับบัญชา แต่ถ้าหากองค์กรวิชาชีพนั้นดำเนินการผิดกฎหมายหรือออกนอกลู่
นอกทาง หน่วยกำกับสามารถดำเนินการใด
          องค์กรวิชาชีพนี้มีอำนาจหน้าที่กำหนดมาตรฐานวิชาชีพออกและเพิกถอนใบอนุญาต
ประกอบวิชาชีพ และทำหน้าที่ตามที่กำหนดในวรรคหนึ่ง
          วรรคสอง กำหนดว่า บุคคลทั้งสี่ประเภทในวรรคนี้ ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ซึ่งจะต้องมีกฎหมายอีกฉบับหนึ่งกำหนด
          วรรคสี่ก็เช่นกันให้มีกฎหมายกำหนดรายละเอียด
        ส่วนวรรคห้าวรรคหกเขียนข้อยกเว้นเก็บไว้ ไม่ให้มาตรานี้บังคับใช้กับผู้บริหาร
การศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษา เช่น อธิบดี และอาจารย์มหาวิทยาลัย

          
มาตรา 54 ให้มีองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู   โดย
ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งของหน่วยงานทางการศึกษาในระดับ
สถานศึกษาของรัฐและระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นข้าราชการในสังกัด
องค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู โดยยึดหลักการกระจาย
อำนาจการบริหารงานบุคคลสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา    ทั้งนี้
ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จะต้องมีกฎหมายอีกฉบับหนึ่งจัดระเบียบ
และองค์กรกการบริหารของบุคลากรครู   และบุคลากรทางการศึกษา สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษาและหน่วยงาน
ของรัฐระดับเขตพื้นที่การศึกษา และให้ยึดหลักการกระจายอำนาจ
การบริหารซึ่งหมายความว่า ให้หน่วยงานระดับเขตพื้นที่ และสถานศึกษา
สามารถบริหารงานบุคลากรของตนเองตามกฎระเบียบที่องค์กรบริหาร
ส่วนกลางจะกำหนด


          
มาตรา 55 ให้มีกฎหมายว่าด้วยเงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการและ
สิทธิประโยชน์เกื้อกูลอื่น สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอและเหมาะสมกับฐานะทางสังคมและวิชาชีพ
ให้มีกองทุนส่งเสริมครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อจัดสรร
เป็นเงินอุดหนุนงานริเริ่มสร้างสรรค์ ผลงานดีเด่น  และเป็นรางวัล
เชิดชูเกียรติครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ทั้งนี้ ให้เป็นไป
ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง


          
มาตรา 56 การผลิตและพัฒนาคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
การพัฒนามาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ และการบริหารงานบุคคล
ของข้าราชการหรือพนักงานของรัฐในสถานศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งสถานศึกษาแต่ละแห่งและกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้อง

          
มาตรา ๕๗ ให้หน่วยงานทางการศึกษาระดมทรัพยากรบุคคลในชุมชน
ให้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยนำประสบการณ์ ความรอบรู้ ความชำนาญ
และภูมิปัญญาท้องถิ่นของบุคคลดังกล่าวมาใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการ
ศึกษาและยกย่องเชิดชูผู้ที่ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา
           คัดลอกมาจาก (ที่มา) = http://www.moe.go.th/hp-vichai/ex-prb05-7.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น